หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
เรื่องของเท้าในผู้ป่วยเบาหวาน
ข้อมูลสุขภาพ
สุขภาพใจ สุขภาพจิต
โรคหัวใจ
โรคมะเร็ง
เบาหวาน
โคเลสเตอรอล
ไต
สุภาพสตรี
ผู้สูงอายุ
กระดูกและข้อ
ฟัน
โรคอ้วน
เฉพาะด้านอื่นๆ
สารอาหาร
ทั่วไป
 


แผล หรือปัญหาของเท้าเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยพิการ และอาจถึงเสียชีวิตได้ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานอาจมีปัญหาเรื่องเส้นประสาทที่ปลายเท้าเสื่อม

ซึ่งหากมีอาการบาดเจ็บที่เท้า อาจไม่ทราบความรู้สึก นอกจากมีเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงปลายเท้าในผู้ป่วยตัน ทำให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงบริเวณ เท้าลดน้อยลง ดังนั้นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจึงอาจเป็นผลร้ายแรงที่รักษาได้อาการ หากขาดการดุแลรักษาจากแพทย์ แผลนั้นอาจรุนแรงจึงถึงขั้นต้องตัดเท้า

โดยมีลักษณะของอาการดังต่อไปนี้

 
•
เท้ามีแผล ผิวเปลี่ยนสี มีตาปลาหรือรอยหนาด้านปูดโปนมากบวม มีตุ่มพอง หรือมีร่องรอยการบาดเจ็บอื่นๆ
 
•
เกิดเชื้อราที่เท้า
 
•
เล็บขบ เท้ามีรอยแดง หรือผิวแห้งแตก
 
•
ปวดเท้า รู้สึกชา หรือเจ็บแปลม และรู้สึกแสบร้อนในเท้า

ข้อพึงระวังและปฏิบัติในการดูแลเท้า สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

 
•
สำรวจเท้าด้วยตนเองทุกวัน ถ้ามีบาดแผล รอยซ้ำ ผิวเปลี่ยนสี หรือตุ่มพอง แม้นเพียงเล็กน้อย ต้องรีปรึกษาแพทย์ทันที
 
•
รักษาเท้าให้สะอาด ล้างทุกวัน และเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะที่ซอกนิ้วเท้า
 
•
ถ้าผิวแห้งเกินไปให้ทาวาสลีน หรือครีมบางๆ เนื่องจากผิวแห้ง อาจทำให้เกิดอาการคัน มีการเกิดรอยแตกได้ง่าย

การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมดังนี้

 
•
ควรเลือกซื้อรองเท้าในช่วงบ่าย เพราะเป็นเวลาที่เท้าขยายตัวมากที่สุด
 
•
ขนาดความยาว ของรองเท้าขณะยืน ควรจะยาวกว่านิ้วเท้าที่ยาวที่สุดประมาณครึ่งนิ้ว
 
•
ส่วนกว้างของรองเท้าควรจะอยู่บริเวณโคนของหัวแม่เท้า
 
•
ไม่หลวมหรือคับเกินไป และควรเป็นรองเท้าหุ้มสัน
 
•
วัสดุที่ใช้ทำรองเท้าควรมีลักษณะนิ่ม ควรเป็นชนิดที่มีเชือกผูก เพื่อให้ปรับได้ง่ายเวลาที่เท้าขยายตัว
 
•
ถ้ารองเท้าใหม่อย่าสวมนานเกินวันละครึ่งถึง 1 ชั่วโมง หากใส่รองเท้าคู่ใดเกิดรอยแดงรอยด้าน หรือตุ่มพองที่เท้า นั่นเป็นสัญญาณเตือนของรองเท้าที่ไม่เหมาะสม
 
•
ไม่ควรใช้รองเท้าแตะชนิดที่มีคีบง่ามนิ้วเท้า
 
•
ถ้ามีหูดหรือตาปลาควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตัดบางๆ ทุก 6-7 สัปดาห์
 
•
งดสูบบุหรี่

เมื่อเกิดแผลที่เท้า

ถ้าเป็นแผลขนาดเล็ก หรือตุ่มพอง รักษาบาดแผลให้สะอาดทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสุกที่ทิ้งไว้จนเย็นและสบู่อ่อน วับแผลให้แห้ง ทายาฆ่าเชื้อโรคที่ไม่ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อ เช่นน้ำยาเบตาดีน หรือยาปฏิชีวนะที่เป็นครีม หลีกเลี่ยงการใช้ยาทิงเจอร์ไอโอดีน ปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่สะอาด ถ้ามีแผลและไม่ดีขึ้น อักเสบบวมแดงควรไปพบแพทย์

การรักษาควรจะตรวจเท้าอย่างสม่ำเสมอ

 
•
ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจการไหลเลือดเวียนเลือด
 
•
ตรวจดูว่ามีอาการแสดงของเส้นประสาทเสื่อมหรือไม่
 
•
ตรวจแผล รอยแตก หูด ตาปลา และลักษณะเล็บ


ซึ่งนี่อาจเป็นข้อปฏิบัติที่สำคัญของการดูแลเท้าของคุณ

 
       
    แหล่งข้อมูล : โรงพยาบาลพญาไท 2  
   
ข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
 
เบาหวาน โรคคุ้นหูที่ไม่ธรรมดา
 
เบาหวานกับโรคหัวใจ
 
ความผิดปกติของไตในผู้ป่วยเบาหวาน
 
อยู่กับเบาหวานอย่างไรถึงห่างไกลโรคตา
 
เลือกรับประทานอาหารอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.