|
|
เหงือกที่สุขภาพดีไม่ควรมีเลือดออกเอง หรือเลือดออกขณะแปรงฟัน ดังนั้น เมื่อมีเลือดออกตามไรฟันย่อมหมายความว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว
สาเหตุ
| |
|
เชื้อแบคทีเรียและคราบฟันที่เกิดบริเวณร่องเหงือก ไรฟัน |
| |
|
โรคของเหงือก เหงือกที่อักเสบและมีการติดเชื้อ มักมีเลือดออกง่าย เพราะการอักเสบทำให้เหงือกมีเลือดมาเลี้ยงมากเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันมากำจัดแบคทีเรีย |
| |
|
บาดเจ็บจากแปรงสีฟันที่ขนแปรงแข็งหรือเยิน หรือใช้ไหมขัดฟันไม่ระมัดระวัง |
| |
|
ขาดวิตามินซี |
| |
|
ไข้เลือดออกเดงกี่ |
| |
|
กลไกของการเกิดลิ่มเลือดผิดปกติ |
การดูแลตนเอง
| |
|
รีบไปโรงพยาบาล หากมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้อง เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระมีเลือด มีเลือดออกที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย |
| |
|
พบทันตแพทย์หากเหงือกบวม คัน นุ่มนิ่ม อันเป็นอาการของโรคเหงือก |
| |
|
พบแพทย์หากมีเลือดออกง่ายตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น รอยช้ำจ้ำเขียวที่ผิวหนัง หรือมีเลือดออกง่ายตามส่วนอื่นของร่างกาย อันเป็นอาการของเลือดหยุดยาก กลไกห้ามเลือดผิดปกติ |
การวินิจฉัยและรักษา
| |
|
หาสาเหตุของเลือดออกแล้วรักษาตามสาเหตุ |
| |
|
รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ สืบค้นหาสาเหตุตามความเหมาะสม |
การดูแลรักษาโดยทันตแพทย์
| |
|
ทำความสะอาดล้างคราบแบคทีเรียที่อยู่ตามซอกฟัน |
| |
|
ขูดหินปูน ขัดคราบบุหรี่ |
| |
|
รักษาโรคเหงือก |
| |
|
สอนการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี |
| |
|
ส่งพบแพทย์ หากเลือดออกตามไรฟันไม่ได้เกิดจากโรคเหงือก |
การป้องกัน
| |
|
ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม เปลี่ยนแปรงสีฟันทันทีที่ขนแปรงเยิน |
| |
|
แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี ดูแลรักษาไรฟันให้สะอาด |
| |
|
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน |
| |
|
กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ผลไม้ชนิดต่างๆ |
|
|