หน้าแรก
ข้อมูลสุขภาพ
เว็บ สุขภาพ
ร้านอาหาร เพื่อสุขภาพ
เว็บ โรงพยาบาล
ดงบัง - หมู่บ้านท่องเที่ยวสมุนไพร
ท่องเที่ยว วันหยุด
ท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์
ท่องเที่ยว เชิงนิเวศ
ท่องเที่ยว ข้อมูล อุทยานแห่งชาติ
 


สมุนไพรกับการท่องเที่ยวดูจะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเท่าไร แต่ที่ บ้านดงบัง จ.ปราจีนบุรี ได้รวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันอย่าลงตัว ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความบันเทิงและองค์ความรู้ด้านการปลูก การเก็บเกี่ยว แปรรูป พร้อมทั้งสรรพคุณนานาประการของสมุนไพรไว้อย่างครบครัน นอกจากนั้นยังได้ลิ้มรสอาหารเมนูสมุนไพร ผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยการนวดตามแบบฉบับอโรมา เธอราพี พร้อมทั้งมีที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติของชนบท

จุดเริ่มของการท่องเที่ยว

หมู่บ้านท่องเที่ยวสมุนไพร 'ดงบัง' หมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างแท้จริง ด้วยหมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกสมุนไพรแหล่งสำคัญ ที่ป้อนให้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (โรงพยาบาลที่นำการแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรมาผสมผสานกับการรักษาแผนปัจจุบัน) มาตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ชาวบ้านได้นำความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย มาใช้ในการเพาะปลูกและแปรรูปสมุนไพร อีกทั้งยังได้นำการปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ ที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแนะนำมาใช้ จนได้เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพ ปราศจากสารปนเปื้อน จนหมู่บ้านดงบังเป็นที่กล่าวถึงไปทั่ว เกษตรกรจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศแห่แหนกันมาศึกษาดูงานและนำความรู้ที่ได้ ไปพัฒนาการปลูกพืชในท้องถิ่นของตนเอง เมื่อองค์กรต่างๆ เข้ามาดูงานกันมากขึ้นหลายฝ่ายจึงเห็นตรงกันว่า น่าจะพัฒนาให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยมีสมุนไพรนานาชนิดเป็นจุดขาย จึงเกิดเป็นโครงการ หมู่บ้านท่องเที่ยวสมุนไพร ขึ้นเมื่อปี 2548

พาชมการปลูกและแปรรูป

โดยเป็นการท่องเที่ยวที่นำสมุนไพรมาเป็นจุดขาย นอกจากจะนำองค์ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรมาถ่ายทอดให้นักท่องเที่ยวได้รู้แล้ว กิจกรรมต่างๆ ก็ยังเกี่ยวพันกับสมุนไพรทั้งหมด ซึ่งผู้ที่เข้ามาจะได้รู้ว่าทำอย่างไรพืชผักที่ไม่ใช้สารเคมีจึงจะงอกงามและออกดอกออกผลดี รู้ถึงวิธีการแปรรูปและสรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพร ได้กินอาหารที่ทำจากสมุนไพรซึ่งรับรองได้ว่าอร่อยมากๆ

บ้านดงบังนับเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวสมุนไพรแห่งแรกของไทย โดยเป็นการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ผู้ที่มาเยือนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่การปลูกสมุนไพร การเก็บเกี่ยว และการแปรรูป โดยจะมีชาวบ้านและลูกๆหลานๆ เป็นไกด์นำชมสวนสมุนไพรพร้อมทั้งอธิบายถึงขั้นตอนการปลูก การแปรรูป รวมทั้งสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละตัวด้วย

โดยเส้นทางท่องเที่ยวในหมู่บ้านสมุนไพรนั้นจะพาท่านไปชมแปลงเพาะปลูกพืชผักสมุนไพรนานาชนิด ดูโรงตากและอบสมุนไพรที่ใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ โรงบดสมุนไพรก่อนที่จะนำไปแปรรูป โรงงานแปรรูปสมุนไพรให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำพริกสมุนไพรหญ้าปักกิ่ง สะเดาอบแห้ง น้ำมันเหลือง ลูกประคบสมุนไพรชนิดแห้ง ชุดสมุนไพรสำหรับอบตัว และโรงทำปุ๋ยหมัก

หากเมื่อยล้าจากการเดินก็มีบริการสปาเพื่อสุขภาพ มีทั้งบริการนวดฝ่าเท้า นวดแผนไทย อบตัว และประคบด้วยสมุนไพร โดยจะใช้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่ชาวบ้านปลูกขึ้นเอง หรือหากต้องการจะค้างคืนก็มีที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้บริการ อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรชนิดต่างๆจำหน่ายให้แก่ผู้สนใจด้วย

ชิมเมนูสมุนไพร

เสน่ห์อีกอย่างที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนบ้านดงบังก็คือ เมนูสมุนไพรเลิศรสที่บรรดาแม่ครัวหัวป่าก์ได้นำเอาพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านมาปรุงแต่ง เป็นอาหารจานเด็ดไว้จำหน่ายแก่นักเที่ยว ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนแต่ช่วยบำรุงร่างกายและมีคุณค่าทางโภชนาการ

เช่น ยำผักกะสัง ผักน้ำต้นอวบอ้วนที่เรารู้จักในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ครั้งสมัยเด็กๆ ถูกนำมาคลุกรวมกับมะม่วงซอย แครอท ขิงซอย หอมแดง โหระพา ใบสะระเหน่ พริกสดซอยเป็นชิ้นยาว เพิ่มรสชาติเค็มมันด้วยกุ้งแห้งตัวโต และถั่วลิสงบดหยาบ ราดด้วยน้ำยำสามรสที่ปรุงจากน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี และพริกขี้หนูทุบ รับประทานคู่กับหมูหยอง เข้ากันอย่าบอกใคร ที่สำคัญยำผักกะสังจานนี้มิใช่แค่มีรสชาติถูกปากและไขมันเหมาะกับสาวๆ ที่ลดความอ้วนเท่านั้นแต่ยังมีสรรพคุณ ในการต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็ง

"ยำผักกะสังข์นี่เกิดจากแนวคิดที่ว่าผักกะสังข์เป็นผักที่ดูดสารอาหารทุกอย่างไว้ในลำต้น รวมทั้งสารเคมีและสารพิษต่างๆด้วย แต่เมื่อชาวบ้านดงบังสามารถปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์หรือพืชผักปลอดสารพิษได้แล้ว ผักทุกอย่างของเราก็จะปลอดสาร 100% เราต้องการให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าแม้แต่ผักกะสังข์ซึ่งเป็นพืชที่ดูดสารพิษได้มากที่สุดจนคนสมัยก่อนไม่กล้ากินผักชนิดนี้ แต่เราสามารถนำผักกะสังข์มาปรุงเป็นอาหารได้เพราะปัจจุบันดินและน้ำของเราปลอดสารพิษอย่างสิ้นเชิง"

อีกจานหนึ่งที่ทั้งแปลกและอร่อยก็คือแกงไพลม่วงกับปลาดุก รสชาติกลมกล่อม เผ็ดนำตามแบบฉบับแกงทั่วไป ตามด้วยเค็มจากน้ำปลาดี และหวานปะแล่มจากหัวกะทิเข้มข้น เนื้อของไพลม่วงสดที่ฝานเป็นชิ้นพอคำเคี้ยวหนึบหนับคล้ายหน่อไม้ดองแต่รสชาติอร่อยไปอีกแบบ

ไพลม่วงเป็นพืชตระกูลไพล มีสรรพคุณในการขยายหลอดเลือด ขับลม ขับประจำเดือน และเป็นยาระบายอ่อนๆ ปัจจุบันเป็นพืชท้องถิ่นของบ้านดงบังซึ่งชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้

นอกจากนั้นยังมีอาหารจานสมุนไพรที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลากหลายเมนู อาทิ ส้มตำลูกยอ ยำใบบัวบก แกงขี้เหล็ก น้ำพริกปลาทูสด

ส่วนเครื่องดื่มก็มีน้ำสมุนไพรต่างๆ ที่ให้รสชาติหวานหน่อยๆ ดื่มแล้วชื่นใจแบบไม่ผสมน้ำตาล เช่น น้ำหญ้าปักกิ่ง ชุมเห็ดเทศ อัญชัน รางจืด กระชาย กระเจี๊ยบแดง ขิง มะตูม ใบบัวบก ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณที่แตกต่างกันไป อาทิ หญ้าปักกิ่ง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านเซลมะเร็งประเภทมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม , ชุมเห็ดเทศ มีสรรพคุณแก้ปวดท้อง เป็นยาระบาย แก้หอบหืด แก้แพ้ ลดการอักเสบ และช่วยรักษาโรคเบาหวาน , อัญชัน ทำให้เลือดไหลเวียนดี ขับปัสสาวะ บำรุงสายตา และช่วยต้านอนุมูลอิสระอันเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็ง , รางจืด มีคุณสมบัติช่วยถอนพิษ แก้แพ้ แก้ท่องร่วง ปัจจุบันนิยมดื่มเพื่อแก้อาการเมาค้าง

' เพชรสังฆาต' สมุนไพรประจำถิ่น

บ้านดงบังมีสมุนไพรขึ้นชื่อมากมายหลายชนิด อาทิ หญ้าปักกิ่ง ฟ้าทะลายโจร ยอ เพกา ชุมเห็ดเทศ เสลดพังพอน ฯลฯ ซึ่งบางชนิดเป็นสมุนไพรหายากแต่กลับพบมากที่นี่ เช่น เพชรสังฆาต ไพรม่วง โดยเฉพาะเพชรสังฆาตหรือที่ในบางพื้นที่เรียกว่าตำลึงทองนั้น ดูจะเป็นสมุนไพรที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักแต่จัดเป็นพืชท้องถิ่นของบ้านดงบัง มีสรรพคุณเด่นในด้านการสมานกระดูก จนหมอยาแถวเพชรบุรีเรียกต้นเพชรสังฆาตว่า ต้นต่อกระดูก นอกจากนั้นยังช่วยรักษาอาการประจำเดือนผิดปกติ ไข้หวัด รักษาโรคมะเร็งและโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย

สำหรับวิธีนำต้นเพชรสังฆาตมาใช้รักษาโรคนั้นมีหลายวิธี อาทิ การสมานกระดูกให้นำเถาเพชรสังฆาตที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป ตำผสมกับเหล้าแล้วทาบริเวณที่กระดูกหัก นำรากหรือใบมาตำให้ละเอียดพอกตรงที่กระดูกหัก หากมีอาการไข้หวัดให้นำต้นเพชรสังฆาตมาต้มดื่มต่างน้ำ ส่วนผู้ที่เป็นโรคมะเร็งให้นำเพชรสังฆาตมาต้มรวมกับต้นเหงือกปลาหมอ ทองพันชั่งและหัวร้อยรู กรองเอาแต่น้ำมาดื่ม

สำหรับวิธีรักษาโรคริดสีดวงนั้นต้องรับประทานสดๆ แต่เนื่องจากเพชรสังฆาตมีผลึกแคลเซียมอ๊อกซาเลทสูง การเคี้ยวหรือสัมผัสโดยตรงจึงอาจทำเกิดอาการระคายเคือง วิธีรับประทานจึงควรนำเถาเพชรสังฆาตสด 2-3 องคุลี หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ สอดไว้ในชิ้นแตงกวาหรือกล้วยหั่น แล้วกลืนลงไป หรือนำผงเพชรสังฆาตตากแห้งมาคลุกกับมะขามเปียก เพื่อให้กรดที่มีอยู่ในมะขามช่วยฆ่าพิษจากผลึกแคลเซียมอ๊อกซาเลทที่อยู่ในพชรสังฆาต จากนั้นปั้นป็นลูกกลอนเล็กๆ รับประทานวันละ 3 ครั้ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ผลิตเพชรสังฆาตแบบแคปซูล สำหรับรักษาอาการโรคริดสีดวงทวารด้วย

เสน่ห์แห่งภูมิปัญญา

นอกจากธรรมชาติ ป่าไม้และต้นไม้ใหญ่ๆ ที่หาได้ยากในหมู่บ้านที่อยู่ในเขตเมือง ซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่แล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการท่องเที่ยวหมู่บ้านสมุนไพรดงบังก็คือภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยชาวบ้านได้นำความรู้ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายมาปรับใช้กับวิถีปัจจุบัน

การนำสมุนไพรมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น นับเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ล่าสุดมีการนำสะเดาสดมาอบแห้ง เพื่อให้สามารถเก็บรักษาสะเดาเอาไว้รับประทานได้ตลอดทั้งปี โดยเวลารับประทานก็เพียงแต่ นำสะเดาอบซึ่งบรรจุอยู่ในซองสุญญากาศออกมาแช่น้ำไว้ประมาณ 5 นาที เราก็จะได้สะเดาที่มีรสชาติไม่แตกต่างจากสะเดาสดทั่วไป ซึ่งสะเดาอบบ้านดงบังของแห้งนั้นจำหน่ายในราคาเพียงแพคละ 15 บาทเท่านั้น ในขณะที่ในช่วงนอกฤดูกาลราคาสะเดาสดจะสูงถึงกำละ 20 บาทเลยทีเดียว

เนื่องจากในช่วงหน้าสะเดาจะมีสะเดาออกมาเยอะมาก ทำให้ราคาตก แต่ช่วงนอกฤดูราคาจะสูงมากแต่ไม่มีของขาย เราก็เลยมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถเก็บสะเดาเอาไว้ได้นานๆ โดยที่คุณภาพไม่เปลี่ยนแปลง ก็นึกถึงมะกรูดที่เขาเอามาอบแห้งก็เลยลองนำสะเดามาอบแห้งดู ปรากฏว่าตอนเอามาใช้แค่แช่น้ำก็ลับเป็นสะเดาสดเหมือนเดิม เราสามารถนำออกขายในช่วงนอกฤดูซึ่งได้ราคาดีกว่า แต่เราตั้งราคาขายต่ำกว่าสะเดาสด เพื่อให้ผู้บริโภคได้กินสะเดาในราคาที่ถูกลงด้วย

หมู่บ้านท่องเที่ยวสมุนไพรดงบังนับเป็นการนำทรัพยากรท้องถิ่นและภูมิปัญญาชาวบ้าน มาเป็นจุดขายในการท่องเที่ยวได้อย่างชาญฉลาด ทุกคนที่ได้เข้ามาสัมผัสต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อดหลงเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เพียงความหลากหลายของสมุนไพรนานาชนิดเท่านั้นแต่น้ำจิตน้ำใจ และความใสซื่อของชาวบ้านที่ให้การต้อนรับอย่างไร้จริตนั้น ดูจะเป็นเสน่ห์ร้ายที่มัดใจผู้มาเยือนได้ชงัดนัก

รายละเอียดเกี่ยวกับดงบัง หมู่บ้านสมุนไพร

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 6 บ้านดงบัง ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
การเดินทาง :
รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 305 (กรุงเทพฯ- รังสิต-องครักษ์ –นครนายก) หรือถนนทางหลวงหมายเลข 33 (กรุงเทพฯ – สระบุรี- บ้านนา –นครนายก ) ออกจากตัวเมืองนครนายก มุ่งหน้าไปยังปราจีนบุรี–กบินทร์บุรี ใช้ทางหลวงหมายเลข 33 เลี้ยวขวาที่หลักกิโลเมตรที่ 165

สอบถามรายละเีอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-7600-8842, 0-7087-5039 (มีที่พักแบบโฮมสเตย์)
 
       
    แหล่งข้อมูล : www.manager.co.th และ www.tat.or.th  
   
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
 
ดอนหอยหลอด
 
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม
 
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
 
เกษตรที่สูงเขาค้อ
 
   
 
 
Copyright © 2007 - 2009 by yourhealthyguide.com All rights reserved.